วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ดนตรี มิติสัมพันธ์ และอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์



ในที่สุดก็พบว่าการฟังเพลง dual piano sonata บนบันไดเสียง d major (k.448) ของโมสาร์ตช่วยให้ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ขอองคนเพิ่มขึ้น ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือความสามารถทางมิติสัมพันธ์นี้เป็นพื้นฐานสำคัญมากต่อการเรียนรู้ ทางด้านคณิตศาตร์ วิทยาศาตร์ สถาปัตย์กรรม หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตปกติของคนเรา หากเราจะตีความจากเรื่องราวต่างๆ ของการค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวโยงกันนี้ ก็น่าจะสรุปได้ว่า อันความสามารถาทางมิติสัมพันธ์ที่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์นั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดขึ้นได้ด้วยการฟังดนตรี (ซึ่งอาจจะไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นเพลงของโมสาร์ตเท่านั้น แต่ขณะนี้มีเฉพาะเพลงของโมสาร์ตเท่านั้นที่มีรายงานการวิจัยที่ชัดเจน ) อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของความสามารถทางมิติสัมพันธ์ อันเป็นผลมาจากการทดลองของ ดร.ฟรานชิส เราส์เชอร์ นั้นเป็นการเพิ่มขึ้นในลักษณะชั่วคราว เธอจึงได้ทำการศึกษาค้นคว้าต่ออีกว่าประสบการณ์ดนตรีในแง่มุมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การร้องเพลง หรือการฝึกกิจกรรมเข้าจังหวะจะมีผลทำให้ความสามารถทางมิติสัมพันธ์เพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยทำการศึกาเปรียบเทียบในกลุ่มเด็กอนุบางฃลและประถมต้นว่า ระหว่างการเรียนเปียนโน เรียนขับร้อง และเรียนคอมพิวเตอร์ อันไหนจะมีผลต่อความสามารถทางมิติสมพันธ์มากกว่ากัน ซึ่งก็พบว่าการเรียนเปียนโนทำให้คะแนนความสามารถทางมิติสัมพันธ์ของกลุ่มทดลองสูงขึ้นกว่าการรียนขับร้อง และเรียนคอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าการฝึกกิจกรรมประกอบจังหวะช่วยให้เด็กมีความเข้าใจเรื่องมิติของเวลาได้มากขึ้นอีกด้วย
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่คนทั้งโลกรู้จักก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสามรถทางมิติสัมพันธ์สูงมาก ด้วยความสามารถอันนี้เอง ที่ทำให้เขาค้นพบทฤษฎีสัมพันธ์ภาพทั่วไป ซึ่งอธิบายความเป็นไปของเอกภาพได้แจ่มชัดที่สุด 100 ปีผ่านไปก็ยังไม่มีใครสามารถล้มล้างทฤษฎีของเขาได้ ตรงกันข้ามนักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังๆ คนแล้วคนเล่าที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่ ไอน์สไตน์ค้นพบนั้นถูกต้องและเป็นจริงที่สุด
และเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองไมการนำสมองของไอน์สไตน์มาศึกษาอีกครั้ง สิ่งที่พบก็คือสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความสามารถทางมิติสัมพันธ์นั้นโตกว่าของคนทั่วๆไปนี่ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าความสามารถทางมิติสัมพันธ์นั้นมีความสำคัญกับมนุษย์และวงการวิทยาศาสตร์เพียงไร แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าไอน์สไตน์นั้นชอบดนตรีป็นชีวิตจิตใจ ไอน์สไตน์เรียนดนตรีตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เครื่องดนตรีประจำตัวของเขาก็คือไวโอลิน เขาจะไม่ไปไหนดดยขาดไวโอลินโดยเด็ดขาดความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นนี่เอง ทำให้ไอน์สไตน์ถึงกับประกาศว่า หากชีวิตของเขาไม่สามารถหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งที่เขาจะทำก็คือการหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักไวโอลิน
คำถามที่ยังตอบไม่ได้ก็คือ ความสามารถทางมิติสัมพันธ์อันเอกอุของไอน์สไตน์นี้เป็นผลมาจากการสัมผัสกับดนตรีหรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่ยากต่อการหาคำตอบยิ่งนัก เพราะเราต้องหาคนที่ฉลาดเท่าไอน์สไตน์ เล่นดนตรีเหมือนไอน์สไตน์มาจำนวนหนึ่ง แล้วทำการศึกษาของคนเหล่านั้น เปรียบเทียบกับสมองของไอนสไตน์ จนปัจจุบันเรายังหาคนที่มีคุณสมบัติดังที่ว่าไม่เจอเลยครับ
สำหรับประเทศไทยของเรา การทำให้ลูกหลานรุ่นใหม่ของเรามีความสามารถทางมิติสัมพันธ์มากขึ้นจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะเราจะต้องก้าวเดินเข้าไปสู่โลกของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่ต้องถึงขนาดไอน์สไตน์ก็ได้ครับ (แต่ถ้าได้ก็ดี) ขอเพียงสักใกล้ ๆ กับไอน์สไตน์ก็พอ แต่ขอให้มีจำนวนมากเพียงพอที่จะนำพาประเทศของเราให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและมั่นคงก็น่าจะพอแล้ว